ทำไมถึงต้องฉีดเติมเต็มไขมันใบหน้า ที่เมโกะ คลินิก ???
ปัจจุบันเทคนิคการฉีดไขมันเริ่มกำลังเป็นที่นิยม เพราะไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย และให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ การฉีดไขมันที่ใบหน้าเป็นเทคนิคการผ่าตัดที่ต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษไม่เพียงแต่ต้องใช้ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับศาสตร์ของการย้ายและปลูกถ่ายไขมัน แต่ยังต้องใช้ศิลปะในการออกแบบใบหน้าอีกด้วย เมโกะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการปลูกถ่ายไขมันโดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์ยาวนานกว่า 33 ปี การันตีลูกค้านับแสนราย
การฉีดเติมเต็มด้วยไขมันมีมานานแล้ว แต่เมื่อก่อน ไขมันที่ฉีดเข้าไปจะมีส่วนที่ตายเป็นจำนวนมาก ทำให้การกำหนดปริมาณและขนาดทำได้ยาก ผลลัพธ์ที่ได้จึงไม่ดีเท่าที่ควร และคนไข้ต้องกลับมาเติมไขมันหลายครั้งกว่าจะอยู่ตัว ปัจจุบันการเติมไขมันได้ถูกพัฒนาเทคนิคและวิธีการ ทำให้หลังฉีดเติมเต็มไขมันไปแล้ว ไขมันมีการตายน้อยลง แพทย์จึงสามารถประเมินผลลัพธ์ได้ชัดเจนขึ้น
วิธีฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า| Fat Filler
การฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าเป็นการปลูกถ่ายไขมัน โดยการดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกายเช่น ดูดออกจากต้นขา หน้าท้อง หรือสะโพก เมโกะใช้เทคนิคการดูดไขมันที่ทำให้ได้ไขมันคุณภาพสูง ลดปัญหาไขมันสลายและตายได้ดี หลังจากได้ไขมันครบตามที่ต้องการแล้ว จะเข้าสู่ขั้นตอนการเตรียมไขมันโดยกระบวนการปั่นแยกให้ได้ไขมันที่มีชีวิตที่มีคุณภาพสูง แล้วนำกลับมาฉีดเข้าไปในใบหน้าตรงบริเวณที่มีความบกพร่อง เพื่อเติมเต็มชั้นใต้ผิวหนัง และปรับรูปร่างส่วนที่จะทำการฉีด โดยเซลล์ไขมันที่ฉีดยังมีชีวิตอยู่ หลักการของการฉีดไขมันคือการเติมเต็มส่วนต่างๆของร่างกาย คล้ายการรักษาด้วยฟิลเลอร์ แต่ผลลัพธ์อยู่ได้นานกว่า
ขั้นตอนการฉีดไขมัน
ขั้นตอนการทำ
1. ดูดไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย
2. ปั่นแยกให้ได้ไขมัน ที่มีชีวิต ที่มีคุณภาพสูง
3. ฆ่าเชื้อและทำความสะอาดใบหน้าและฉีดยาชา
4. นำไขมันที่ได้กลับมาฉีด เข้าไปที่ใบหน้าบริเวณที่มีข้อบกพร่อง
ข้อดี
- ไม่มีแผลเป็น
- ไม่มีสารแปลกปลอมเข้าสู่ร่างกาย เพราะใช้ไขมันตนเอง ไม่ไหล
- ไขมันที่ฉีดเข้าไปและเหลืออยู่หลังจากผ่านไป 6 เดือน จะอยู่ได้ถาวร
- ไขมันเป็นฟิลเลอร์ที่มีชีวิตสามารถฟื้นฟูสภาพความมีชีวิตชีวาของผิวหน้าได้ เพราะไขมันมีสเต็มเซลล์ไขมันปนอยู่ ทำให้หลังฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าไปแล้ว จะดูเป็นธรรมชาติ แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
- ปลอดภัย
ข้อเสีย
- ไม่สามารถทำในคนที่ผอมมากๆ ได้
- แม้ว่าผลการเติมเต็มไขมันจะดีขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังมีการสลายตัวบางส่วนของไขมันอยู่ ปริมาณการสลายตัวของไขมันนั้นขึ้นกับธรรมชาติแต่ละคน และในแต่ละตำแหน่งของร่างกายก็มีการตอบสนองที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นจึงอาจต้องมีการทำซ้ำสองถึงสามครั้ง เพื่อความสมบูรณ์ของใบหน้า
ตำแหน่งการฉีด
1.ฉีดไขมันเติมเต็มบริเวณหน้าผาก / ขมับ
เพิ่มความนูนของหน้าผาก ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ แลดูยาวขึ้น เป็นรูปไข่ รับกับจมูกที่โด่งสวย
2.ฉีดไขมันเติมเต็มบริเวณใต้ตา
แก้ไขร่องใต้ตาลึก ลดรอยดำคล้ำซึ่งเกิดจากผิวหนังบาง ลดรอยเส้นเลือดที่ผิวหนังใต้ตา ลดรอยเหี่ยวย่นใต้ตา หลายคนผ่าตัดถุงใต้ตาแต่ไม่สามารถแก้ปัญหาร่องใต้ตาลึกได้ เพราะขาดไขมัน การฉีดเติมไขมันใต้ตา เป็นการแก้ปัญหาที่ตรงจุดสำหรับปัญหาเหล่านี้
3.ฉีดไขมันเติมเต็มปรับหน้าเรียว ลดแก้มตอบ
สำหรับคนที่มีแก้มตอบจะทำให้เห็นโหนกแก้มสูง ทำให้ใบหน้าดูไม่อ่อนหวานและดูแก่กว่าวัย การเติมไขมันจะทำให้ใบหน้าอวบอิ่ม และดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ
4.ฉีดไขมันเติมเต็ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
การฉีดไขมันสามารถช่วยลดริ้วรอยของอายุที่มากขึ้นได้ เช่น รอยร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องน้ำตา ทำให้แลดูอ่อนเยาว์ขึ้น
รีวิวฉีดไขมัน
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
รายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
การเตรียมตัวก่อนฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า
- แจ้งประวัติการแพ้ยา ยาและอาหารเสริมที่รับประทาน รวมถึงโรคประจำตัว และประวัติการผ่าตัดให้แพทย์ทราบ และนำยาที่รับประทานประจำมาให้แพทย์ประเมิน
- งดรับประทานยาละลายลิ่มเลือด (กลุ่มยา Aspirin, Ibuprofen) วิตามินเอ อี ซี สมุนไพร โสม ใบแปะก๊วย น้ำมันปลา ก่อนรับบริการ 2 สัปดาห์
- งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก่อนผ่าตัดอย่างน้อย 2 สัปดาห์ เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและระยะการบวมที่นานกว่าปกติ
- ไม่ต้องอดอาหาร แต่ควรรับประทานอาหารไม่ให้อิ่มเกินไป
- งดการผ่าตัดในช่วงที่เป็นหวัด ไอ ไข้ หรือป่วย
- ควรอาบน้ำสระผม ทำความสะอาดร่างกายให้สะอาดเรียบร้อยก่อนการผ่าตัด
- ไม่ควรใช้เครื่องสำอางใดๆ ในบริเวณใบหน้า ที่ยากแก่การเช็ดออกก่อนการผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อได้
- เตรียมใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ถอดใส่ง่าย
- ก่อนการผ่าตัดควรทำใจให้สบาย เพราะการฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้าไม่น่ากลัวอย่างที่คิด
การปฏิบัติตัวหลังฉีดไขมันเติมเต็มใบหน้า
- 24 ชม. แรก งดการนวดหน้า ทาครีม โลชั่น
- 48-72 ชม.แรก ประคบเย็นด้วยเจลประคบ เพื่อลดบวม
- ควรนอนให้ศีรษะสูงใน 3 วันแรก เพื่อลดอาการบวม
- ควรพักผ่อนให้เพียงพออย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารร้อน ของหมักดอง อาหารที่แข็งที่ย่อยยาก
- งดแอลกอฮอล์ งดสูบบุหรี่ ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อและการบวมที่นานกว่าปกติ
- รับประทานยาตามเวลาที่แพทย์สั่ง
- มาตัดไหม ตามแพทย์นัด
- ถ้ามีอาการผิดปกติหรือแดงมากให้กลับมาพบแพทย์